ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
บการเงินไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2542
16 พฤศจิกายน 2542
"สอบทานแล้ว"
13. หุ้นกู้ระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี
บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้แปลงสภาพไม่ได้ ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2537
จำนวน 500 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000.00 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8.00 ต่อปี
มีอายุ 4 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ครบกำหนดชำระคืนเงินต้น ในวันที่ 15 มิถุนายน 2541
หุ้นกู้นี้ถึงกำหนดชำระหนี้แล้ว
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542 บริษัทฯ ได้หักกลบลบหนี้หุ้นกู้ของบริษัทฯ จำนวน 30.00 ล้านบาท
พร้อมดอกเบี้ย จำนวน 5.37 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแห่งหนึ่งถืออยู่กับเงินลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทแห่งนั้น
เป็นผลทำให้เกิดกำไร จำนวน 29.41 ล้านบาท
14. ทุนเรือนหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพ
ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2542 ผู้ถือหุ้นได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน
จากเดิม 550 ล้านบาท (จำนวน 55 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท) เป็น 6,937.50 ล้านบาท
(จำนวน 693.75 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท) ซึ่งได้รับอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่
29 กันยายน 2542
ในการประชุมเดียวกันนี้ ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ ดังนี้
1. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 18 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ Lehman Brothers Holding
Inc. ในราคาหุ้นละ 6.00 บาท
2. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 18 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งออกให้แก่
กลุ่ม Lehman Brothers Holding Inc. และ/หรือให้แก่บุคคลในวงจำกัดในราคาหุ้นละ 6.00 บาท
3. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 2.75 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ตามโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน ให้แก่กรรมการและพนักงานของ
บริษัทฯ และบริษัทย่อย ในราคาการใช้สิทธิหุ้นละ 6.00 บาท
4. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 16.50 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการแปลงสภาพของหุ้นกู้
แปลงสภาพโดยหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 1,000.00 บาท แปลงเป็นหุ้นสามัญได้ 30 หุ้น
5. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 583.50 ล้านหุ้น ดังนี้
5.1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 200 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาไม่ต่ำกว่า
หุ้นละ 10.00 บาท
5.2 หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 200 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปในราคา
ไม่ต่ำกว่า หุ้นละ 10.00 บาท
5.3 หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 183.50 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดในราคา
ไม่ต่ำกว่า หุ้นละ 10.00 บาท
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
"สอบทานแล้ว"
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
เพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยในวงจำกัด จำนวน 2.75
ล้านหน่วย โดยไม่มีราคาเสนอขาย อายุโครงการ 5 ปี ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญ
1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 6.00 บาท
และผู้ถือหุ้นยังได้มีมติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพใหม่ เพื่อแลกกับหุ้นกู้เดิมของ
บริษัทฯ ที่ออกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2537 โดยหุ้นกู้แปลงสภาพได้ดังกล่าว มีอายุไม่เกิน 1 เดือน และ
การใช้สิทธิในการแปลงสภาพให้กระทำภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยมีราคา
แปลงสภาพ 1,000.00 บาท ต่อหุ้นสามัญ 30 หุ้น บริษัทฯ จะต้องจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพภายใน
3 เดือน นับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ
15. ขาดทุน(กำไร)จากการยกเลิกสัญญา
ณ วันที่ 30 กันยายน 2542 และ 2541 บริษัทฯ ได้ยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายของลูกค้า
ที่เคยบันทึกรับรู้รายได้จากการขายและต้นทุนขายไปแล้วจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2542 และ2541 และ
บันทึกยึดเงินลูกค้าจากการยกเลิกสัญญา
16. ขาดทุนจากการโอนสินทรัพย์ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
พันบาท
งบการเงินเฉพาะ
งบการเงินรวม ของบริษัทฯ
ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
- ราคาตามบัญชี 331,660 292,720
- ราคาโอนสินทรัพย์ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ (154,290) (130,800)
ขาดทุนจากการโอนสินทรัพย์ตามสัญญา
ปรับโครงสร้างหนี้ 177,370 161,920
============= =============
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
"สอบทานแล้ว"
17. รายการพิเศษ - กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2542 บริษัทฯ และบริษัทย่อย ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบัน
การเงินแห่งหนึ่ง ดังต่อไปนี้
พันบาท
งบการเงินเฉพาะ
งบการเงินรวม ของบริษัทฯ
ยอดหนี้สิน(เงินต้นและดอกเบี้ย) 336,631 302,948
หัก ชำระหนี้โดยการโอนต้นทุนการพัฒนา
อสังหาริมทรัพย์ ชำระด้วยหุ้นสามัญ
1.1 ล้านหุ้น ในราคาตามมูลค่า
หุ้นละ 10.00 บาท และจ่าย
ชำระเป็นเงินสด (200,820) (177,330)
กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 135,811 125,618
============= =============
18. รายการระหว่างบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2542 และ 2541 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายการระหว่างบริษัทที่
เกี่ยวข้องกัน ดังนี้
ล้านบาท
งวดสามเดือน งวดเก้าเดือน
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ
2542 2541 2542 2541 2542 2541 2542 2541
รายได้จากการ
จัดการธุรกิจ - - 2.02 5.07 - - 6.10 7.59
ดอกเบี้ยรับ - - 13.06 14.24 - - 39.17 45.24
ดอกเบี้ยจ่าย - - 0.30 0.79 - - 0.96 6.20
รายได้ค่าจัดการธุรกิจรับจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเป็นรายได้ค่าจัดการธุรกิจ และบริหารงานให้
แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกันบางแห่ง ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
รายการธุรกิจตามที่แสดงไว้ในงบการเงินระหว่างกาล เป็นไปตามมูลค่าที่ไม่แตกต่างจากรายการ
ที่กระทำกับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
"สอบทานแล้ว"
19. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
ณ วันที่ 30 กันยายน 2542 และวันที่ 31 ธันวาคม 2541 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีภาระผูกพัน
และหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนี้
ล้านบาท
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ
2542 2541 2542 2541
19.1 ภาระผูกพันตามสัญญาที่จะต้อง
ใช้เงินทุน เพื่อการพัฒนา
โครงการต่อไปจนแล้วเสร็จ 6.60 26.18 0.42 19.75
19.2 ภาระผูกพันตามสัญญาที่จะต้อง
จ่ายชำระค่าที่ดินจนครบ 4.50 27.60 4.50 27.60
19.3 ภาระหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นจาก
การค้ำประกันเงินกู้ เพื่อการ
ซื้อบ้านของลูกค้าของบริษัทฯ
และบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 27.51 30.52 26.68 29.56
19.4 ภาระหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
เนื่องจากการให้ธนาคาร
ค้ำประกัน 11.39 9.83 7.97 5.79
19.5 ภาระหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
เกี่ยวกับการค้ำประกัน ให้
บริษัทที่เกี่ยวข้องกันในวงเงิน - - 1,267.69 1,307.69
20. เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน
บริษัทฯ ได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าในวันที่ 15 ตุลาคม 2542 ทุนที่ออกและ
เรียกชำระแล้วเพิ่มจาก 550.00 ล้านบาท เป็น 812.50 ล้านบาท และในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2542
ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วเพิ่มจาก 812.50 ล้านบาท เป็น 823.50 ล้านบาท
21. การเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ
ในงบการเงินรวม เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2541 และวันที่ 20 กรกฎาคม 2541 ผู้ถือหุ้น
ได้มีมติพิเศษให้เปลี่ยนชื่อ บริษัท โนเบิล พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนท์ จำกัด เป็น บริษัท เอส แอนด์ พี
พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนท์ จำกัด และได้รับอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2541
"ยังไม่ได้ตรวจสอบ"
"สอบทานแล้ว"
22. ผลกระทบของปัญหา ปี ค.ศ. 2000 ที่มีต่อบริษัทฯ
บริษัทฯ คาดว่าปัญหาปี ค.ศ.2000 จะไม่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถซื้อ
ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้แทนระบบเดิม และแก้ไขปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดย
มีค่าใช้จ่ายประมาณ 635,000 บาท บริษัทฯ คาดว่าการแก้ไขปรับปรุงทั้งหมดจะเสร็จในปี 2542
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงปี ค.ศ.2000 บริษัทฯ อาจจะเผชิญกับความไม่แน่นอนอันเกิดจากการที่
บริษัทอื่นที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงระบบได้ทันกาล ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าผลกระทบ
ที่มีต่อบริษัทฯ จะไม่มีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
23. การจัดประเภทบัญชีใหม่
รายการบัญชีบางบัญชีของงบการเงินระหว่างกาลในปี 2541 ได้จัดประเภทใหม่ เพื่อให้สอดคล้อง
กับการแสดงงบการเงินระหว่างกาลในปี 2542