ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
แจ้งการปรับโครงสร้างหนี้, การเพิ่มทุน และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
10 สิงหาคม 2542
วันที่ 10 สิงหาคม 2542
เรื่อง ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2542 ซึ่งประชุม
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2542 ระหว่างเวลา 14.30 น. ถึง 17.00 น. โดยที่ประชุมมีมติในเรื่องดังต่อไปนี้
วาระที่ 1 รับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัท ครั้งที่ 2/2542, 2.1/2542 และ 2.2/2542
วาระที่ 2 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 550,000,000 บาท (ห้าร้อยห้าสิบล้านบาท)
เป็น 6,937,500,000 บาท (หกพันเก้าร้อยสามสิบเจ็ดล้านห้าแสนบาทถ้วน) โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน
638,750,000 หุ้น (หกร้อยสามสิบแปดล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
6,387,500,000 บาท (หกพันสามร้อยแปดสิบเจ็ดล้านห้าแสนบาทถ้วน)
วาระที่ 3 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้สัตยาบันการเข้าลงนามในบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Understanding) เรื่องการ
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แผนการเพิ่มทุน และแผนการสนับสนุนทางการเงินระหว่างบริษัทกับ Lehman Brothers Holdings
Inc. โดยมีสาระสำคัญของบันทึกข้อตกลงคือ เมื่อบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เสร็จสิ้นหรืออยู่ในระดับที่
Lehman Brothers Holdings Inc. กำหนดแล้ว บริษัทจะดำเนินการให้คณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท
พิจารณาอนุมัติการออกหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ให้แก่ Lehman Brothers Holdings Inc. หรือบุคคลใดๆ ที่ Lehman
Brothers Holdings Inc. กำหนด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือหรือเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับ Lehman Brothers Holdings
Inc. ในเชิงของทุนหรืออำนาจในการบริหารไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
1. ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 18,000,000 หุ้น (สิบแปดล้านหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) โดยเสนอ
ขายในราคาหุ้นละ 6 บาท (หกบาท)
2. ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 18,000,000 หุ้น (สิบแปดล้านหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) เพื่อ
รองรับการใช้สิทธิ (Option) ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ในราคาหุ้นละ 6 บาท (หกบาท) โดยมีเงื่อนไข
ว่า Lehman Brothers Holdings Inc. หรือบุคคลใดๆ ที่ Lehman Brothers Holdings Inc. กำหนดดังกล่าว จะ
ต้องแสดงความจำนงที่จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทภายในระยะเวลา 5 ปี (ห้าปี) นับจากวันที่บริษัท
ได้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแล้วเสร็จตามข้อ 1.
ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1. และ 2. ได้เนื่อง
จากติดข้อจำกัดทางกฎหมาย ในขณะที่ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนนั้นก็ให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท)
วาระที่ 4 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัทออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัท เพื่อแลกกับหุ้นกู้ของบริษัท
จำนวน 500,000,000 บาท (ห้าร้อยล้านบาท) ที่ได้ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุน 17 ประเภทตามประกาศคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และแลกกับภาระผูกพันที่บริษัทมีอยู่กับเจ้าหนี้ทางการเงินอื่นๆ โดยราย
ละเอียดเบื้องต้นของหุ้นกู้แปลงสภาพมีดังต่อไปนี้
ชนิด : หุ้นกู้แปลงสภาพชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่มีหลักประกันที่
ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัท
จำนวนเงิน : ไม่เกิน 550,000,000 บาท (ห้าร้อยห้าสิบล้านบาท)
จำนวนหน่วย : ไม่เกิน 550,000 หน่วย (ห้าแสนห้าหมื่นหน่วย)
อายุ : ไม่เกิน 1 ปี (หนึ่งปี) นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
วิธีการจัดสรร : จัดสรรให้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้และเจ้าหนี้ภาระผูกพันของบริษัท
ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private
Placement) จำนวนไม่เกิน 35 ราย และ/หรือผู้ลงทุน 17
ประเภท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์ เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการ
ขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ และหุ้นที่
ออกใหม่เพื่อรองรับหุ้นกู้แปลงสภาพและการอนุญาต ลงวัน
ที่ 30 ตุลาคม 2535
มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย : 1,000 บาท (หนึ่งพันบาท)
อัตราดอกเบี้ย : ร้อยละ -0- (ศูนย์) ต่อปี
ราคาการแปลงสภาพ : 1,000 บาท (หนึ่งพันบาท) ต่อหุ้นสามัญ 30 หุ้น (สามสิบหุ้น)
ระยะเวลาการใช้สิทธิ : ตลอดอายุของหุ้นกู้แปลงสภาพ
วันสิ้นสุดของการใช้สิทธิ : ไม่เกิน 1 ปี (หนึ่งปี) นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
จำนวนหุ้นที่สำรองไว้เพื่อรองรับการแปลง : ไม่เกิน 16,500,000 หุ้น (สิบหกล้านห้าแสนหุ้น)
สภาพ
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น : ในกรณีที่มีการใช้สิทธิตามหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดจะทำให
สิทธิในการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงประมาณ
ร้อยละ 23 และหากรวมกับกรณีที่มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญ
แสดงสิทธิทั้งหมดที่บริษัทจะออกให้แก่กรรมการและพนักงาน
ของบริษัทและบริษัทย่อย อีกจำนวน 2,750,000 หุ้น (สองล้าน
เจ็ดแสนห้าหมื่นหุ้น) และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่บริษัทจะออกให้
แก่บุคคลในวงจำกัดอีกจำนวน 36,000,000 หุ้น (สามสิบหก
ล้านหุ้น) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะออกภายในระยะเวลาอันใกล้ ตาม
ที่ประธานจะได้เสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติในวาระที่
5 และ 6 ข้างท้ายนี้ จะทำให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงของผู้
ถือหุ้นเดิมลดลง ประมาณร้อยละ 50
ในส่วนของผลกระทบในแง่ของเงินปันผลและกำไรต่อหุ้นนั้น
คาดว่าจะมีผลกระทบเฉพาะช่วงต้นเท่านั้น ซึ่งหากบริษัท
สามารถบริหารงานให้เป็นไปตามเป้าหมายก็น่าจะทำให้
กำไรต่อหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นมาชดเชยกับผลกระทบต่อผู้
ถือหุ้นได้ในระยะยาว
สิทธิของผู้ถือหุ้นในการคัดค้านการออก : เนื่องจากหุ้นสามัญที่ออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหุ้นกู้
หุ้นกู้แปลงสภาพ แปลงสภาพในครั้งนี้ เมื่อรวมกับจำนวนหุ้นที่จัดไว้เพื่อรอง
รับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพที่
ออกในครั้งอื่นมีจำนวนเกินกว่าร้อยละ 30 แต่ไม่เกินร้อยละ
100 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ดัง
นั้น ผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 ราย ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ 10
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทมีสิทธิคัด
ค้านการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพโดยมีหุ้นสามัญรองรับใน
จำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบริษัทหรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย มีอำนาจกำหนดรายละเอียดและเงื่อน
ไขอื่นๆ ของหุ้นกู้แปลงสภาพ เช่น จำนวนหุ้นกู้แปลงสภาพที่จะออกให้นักลงทุนแต่ละราย อายุ ระยะเวลาการใช้สิทธิ วัน
สิ้นสุดของการใช้สิทธิ หรือเหตุให้ต้องออกหุ้นสามัญใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการใช้สิทธิแปลงสภาพ เป็นต้น เข้า
เจรจา ตกลง ลงนามในเอกสารและสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการต่างๆ อันจำเป็นและสมควรอันเกี่ยวเนื่อง
กับหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งรวมถึงการนำหุ้นสามัญที่ได้เนื่องจากการแปลงสภาพเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วาระที่ 5 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัทดำเนินโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
รายละเอียดเบื้องต้นของโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ
1. รายละเอียดเกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิ
1.1 ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
ชนิดระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือไม่ได้ เว้นแต่เป็นไป
ตามเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในข้อ 5 ท้ายนี้
1.2 จำนวนที่ออก 2,750,000 หน่วย (สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหน่วย)
1.3 มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย -0- บาท (ศูนย์บาท)
1.4 ราคาเสนอขายต่อหน่วย -0-บาท (ศูนย์บาท)
1.5 วิธีการจัดสรร จัดสรรในวงจำกัดให้แก่กรรมการและพนักงานของ
บริษัท และบริษัทย่อย รวมทั้งบริษัท เวิร์ลไทม์ โฮล
ดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ในฐานะเป็น
ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ ตามรายละเอียดในข้อ 2
ข้างท้ายนี้
1.6 อายุโครงการ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
1.7 อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกตามที่ระบุในใบสำคัญแสดงสิทธิ
1.8 อัตราการใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น
1.9 ราคาการใช้สิทธิต่อหน่วย -6- บาท (หกบาท) แต่ในกรณีที่มีข้อจำกัดทาง
กฎหมายที่ทำให้ไม่สามารถใช้ราคาการใช้สิทธิดัง
กล่าวได้ ก็ให้ราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 10 บาท (สิบ
บาท)
1.10 จำนวนหุ้นที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิ 2,750,000 หุ้น (สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหุ้น)
1.11 ตลาดรอง บริษัทจะไม่นำใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
สามัญนี้ไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย
2. วิธีการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทจะดำเนินการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 2,750,000 หน่วย (สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหน่วย) ให้
แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยโดยตรง และ/หรือให้แก่บริษัท เวิร์ลไทม์ โฮลดิ้ง จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ในฐานะเป็นผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์เพื่อโอนต่อให้แก่กรรมการและพนักงานของ
บริษัท และบริษัทย่อยตามที่คณะกรรมการบริษัทจะกำหนด ทั้งนี้การจัดสรรให้แก่กรรมการและ/หรือ
พนักงานดังกล่าวจะมีจำนวนไม่เกิน 35 ราย ในรอบระยะเวลา 12 เดือนใด ๆ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
2.1 คณะกรรมการบริษัทจะทำการพิจารณากำหนดรายนามกรรมการ และพนักงานของบริษัท และบริษัท
ย่อยผู้มีสิทธิได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ และจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการและพนักงานของ
บริษัทและบริษัทย่อยผู้มีสิทธิแต่ละรายดังกล่าวจะได้รับ
2.2 คณะกรรมการบริษัท จะเสนอรายชื่อและจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการของบริษัทและ/หรือ
บริษัทย่อยแต่ละรายจะได้รับจัดสรร รวมทั้งรายชื่อและจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่พนักงานของ
บริษัท และ/หรือบริษัทย่อย รายที่จะได้รับจัดสรรเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้ง
หมดที่ออกตามโครงการนี้ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่ออนุมัติเป็นคราวๆ ไปก่อนการจัดสรรใบ
สำคัญแสดงสิทธิ
3. คุณสมบัติของกรรมการและพนักงานที่จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ
3.1 ต้องเป็นกรรมการและพนักงานของบริษัท หรือบริษัทย่อย ในวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติจัดสรรตาม
ที่เห็นสมควร
3.2 ต้องเป็นกรรมการและพนักงานผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่บริษัท หรือบริษัทย่อย (แล้วแต่กรณี)
3.3 จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการและ/หรือพนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย
แต่ละรายได้รับไม่จำเป็นต้องมีจำนวนเท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ อายุงาน ประโยชน์ที่ทำให้
แก่บริษัท หรือบริษัทย่อย(แล้วแต่กรณี) และความรับผิดชอบตามที่คณะกรรมการบริษัทกำหนด
4. หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใช้สิทธิ
4.1 ระยะเวลาการใช้สิทธิ
ผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกตามโครงการนี้สามารถใช้สิทธิได้ ในวันกำหนดการใช้
สิทธิใดๆ(ตามที่ได้นิยามไว้ในข้อ 4.3 ข้างท้ายนี้) ในระหว่างอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ ("ระยะเวลาการ
ใช้สิทธิ")
4.2 การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ
ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทแต่ละครั้งผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ
ได้ทั้งหมด หรือแต่บางส่วน ทั้งนี้ การใช้สิทธิแต่ละครั้งจะต้องเป็นจำนวนเต็มของหน่วยการซื้อขายหุ้น
บนกระดานหลักในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยกเว้นการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญครั้งสุดท้าย
4.3 วันกำหนดใช้สิทธิ
ผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ในระหว่างเวลา 9.00 น. ถึงเวลา 16.00 น. ของวัน
ทำการใดๆ ของบริษัทในแต่ละเดือนตามที่คณะกรรมการบริษัทจะกำหนดตลอดระยะเวลาการใช้สิทธิ
("วันกำหนดการใช้สิทธิ") ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทราบพร้อมกับการจัดส่งใบสำคัญแสดงสิทธิให้บุคคลดังกล่าว
(ยังมีต่อ)