ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ

วันที่ 2 มีนาคม 2542 เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ผลการดำเนินงานของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2541 แสดงผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 580.51 ล้านบาท ต่ำกว่าผลการดำเนินงานสิ้นสุดวัน เดียวกันของปี 2540 ซึ่งแสดงผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 431.85 ล้านบาท บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงถึงสาเหตุของผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อยที่ลดลงมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดขึ้นเนื่องจาก 1. จากภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจที่ถดถอยต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ บางโครงการ ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีเกี่ยวกับการตั้งต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของทรัพย์สิน บริษัทฯจึงหยุดบันทึกดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้ยืมที่เกิดขึ้นในปี 2541 สำหรับโครงการที่ชะลอการพัฒนา จำนวน 201.45 ล้านบาท เป็นราคาทุนของทรัพย์สิน (ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์) และได้บันทึกเป็นดอกเบี้ยจ่ายใน งบกำไรขาดทุนทั้งจำนวน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย และค่าใช้จ่ายก่อนการดำเนินงานและค่าใช้จ่าย สำหรับโครงการดังกล่าว ซึ่งเดิมบริษัทฯ บันทึกเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์อื่น จำนวน 86.80 ล้านบาท และ 84.16 ล้านบาท บริษัทฯได้บันทึกตัดเป็นค่าใช้จ่ายในปี 2541 2. การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี ทำให้เกิดแนวโน้มในการฟื้นตัว ของภาคธุรกิจ แต่นโยบายการปล่อยสินเชื่อที่ยังคงเข้มงวด ส่งผลกระทบต่อการขายและการรับโอนกรรมสิทธิ์ของ ลูกค้า โดยรายได้จากการขายซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพื่อเสริม สภาพคล่องบริษัทฯจำเป็นต้องเร่งผลักดันการขาย ประกอบกับการแข่งขันอย่างรุนแรงด้านราคา ส่งผลให้กำไรขั้น ต้นของบริษัทฯลดลงอย่างมาก โดยลดลงจากกำไรร้อยละ 21 เป็นขาดทุนร้อยละ 26 3. ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพส่งผลให้ปี 2541 บริษัทฯ มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 100.12 ล้านบาท โดยบริษัทฯบันทึกเป็นผลกำไรจากการแปลงค่าเงินตราต่างประเทศในงบกำไรขาดทุน แม้ว่าภาคเศรษฐกิจโดยรวมจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและค่าเงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพ บริษัทฯตระหนักดีถึง ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงดำเนินนโยบายบริหาร เงินทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังจะเห็นได้จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีก่อน จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายสิทธิ ลีละเกษมฤกษ์) กรรมการ