ดิฉันมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทฯ จะสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2566 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทฯ จะได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านเสมือนในปีที่ผ่านมา

นางสาวพรรณี ชัยกุล
ประธานกรรมการ

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”)

ปี 2565 ที่ได้ผ่านพ้นไปนั้น เป็นปีที่เศรษฐกิจค่อย ๆ หลุดพ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง มีการเจริญเติบโตที่ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการดำเนินการในเรื่องสำคัญ ๆ หลายประการ ดิฉันใคร่ขอนำมารายงานต่อท่านผู้ถือหุ้น ดังต่อไปนี้

1. บริษัทฯ ได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์สำหรับโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้นมูลค่า 6,692 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดไปใช้ในการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และในปี 2565 บริษัทฯ ยังสามารถดำเนินการขายโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมูลค่า 2,697 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทฯ ได้ดำเนินการขายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและโครงการเปิดใหม่รวมมูลค่า 14,703 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 17,400 ล้านบาท

2. บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเปิดขายโครงการใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 11 โครงการ เป็นมูลค่ารวมกว่า 31,550 ล้านบาท และสร้างยอดขาย (Pre-sale) มูลค่า 17,400 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) รวมมูลค่า 19,627 ล้านบาท เป็นยอดขาย Pre-sale และยอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มา นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทฯ ยังมีสินค้ารองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Completed Inventory) มูลค่ารวม 11,391 ล้านบาท และสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (Under construction project) ที่จะสามารถส่งมอบได้ตั้งแต่ปี 2567 - 2569 มูลค่ารวม 19,046 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัย (Demand) ที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมทั้งความต้องการบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศ ในปี 2566 บริษัทฯ จึงได้ตั้งเป้าหมายการเปิดตัวโครงการ จำนวน 10 โครงการ มูลค่ากว่า 23,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง กระจายตัวอยู่ทุกทิศของกรุงเทพฯ สำหรับกลุ่มตลาด segment ใหม่ บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการที่เน้นเจาะกลุ่ม Ultra-Luxury จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ บ้านเดี่ยวติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย บ้านเดี่ยวใจกลางทำเล CBD พระราม 9 – เอกมัย และโครงการโนเบิล อเวย์ ชะอำ บีชฟร้อนท์ ที่ดินหน้ากว้างติดทะเล ใจกลางตัวเมืองชะอำ

3. บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำทางด้านการตลาดต่างประเทศไว้ได้ โดยปี 2565 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายสำหรับลูกค้าต่างประเทศกว่า 2,817 ล้านบาท รวมถึงสามารถครองสัดส่วน market share ได้รัอยละ 60 ของมูลค่าการขายคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้บริษัทฯ สามารถขยายตัวไปยังตลาดใหม่ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยลูกค้าต่างประเทศแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าประเทศจีน เมียนมาร์ ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง ตามลำดับ

4. สำหรับการดำเนินการด้านกลยุทธ์ในภาพรวมนั้น บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นสนับสนุนการขยายแบรนด์ “NUE” เพื่อทำการเพิ่มสัดส่วนตลาด Premium Affordable อย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2565 แบรนด์ “NUE” มีมูลค่าทั้งสิ้นกว่าร้อยละ 52 ของมูลค่าโครงการที่เปิดขายอยู่ (Active Project) รวมถึงบริษัทฯ ได้ทำการขยายโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่าโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise กว่าร้อยละ 22 ของมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดของบริษัทฯ การดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานของลูกค้าให้กว้างขึ้น และเพิ่มความต่อเนื่องในการรับรู้รายได้ของทุกไตรมาสมากขึ้นกว่าเดิม

5. ทางด้านการเงิน บริษัทฯ ได้ดำเนินนโยบายการเงินที่มีความเคร่งครัดรัดกุม โดยเมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net IBD/E) ของบริษัทฯ เท่ากับ 1.83 เท่า ซึ่งต่ำกว่าคำรับรองที่บริษัทฯ มีต่อผู้ถือหุ้นกู้และสถาบันการเงินอย่างมีนัยยะ ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีผลตอบแทนต่อส่วนของทุน (ROE) ในอัตราที่สูงเท่ากับร้อยละ 7.9 ทั้งนี้ ในต้นปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี มูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ BBB ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต stable หรือคงที่ จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

6. นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจหลักด้วยความเข้มงวดระมัดระวังข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม กำหนดแนวทางการบริหารจัดการองค์กรตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนอันก่อให้เกิดคุณค่าร่วมในห่วงโซ่ธุรกิจของบริษัทฯ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใส และบริหารความเสี่ยงอย่างครอบคลุม ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯ ได้รับรางวัลเกียรติยศประกอบด้วย

  • รางวัลการประเมินการกำกับดูแลกิจการ บริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2565 ในระดับ “ดีเลิศ” 5 ดาว จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
  • ได้รับการประเมินผล 100 คะแนนเต็ม จากโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 (AGM Checklist) ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
  • รางวัลกิตติกรรมประกาศ (Sustainability Disclosure Acknowledgement) ประจำปี 2565 จากสถาบันไทยพัฒน์
  • ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) ประจำปี 2565” ประเภทกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)
  • รางวัล Award Winner สาขา Residential High Rise Development Thailand จาก Asia Pacific Property Awards 2022-2023 โดยโครงการที่ได้รับรางวัล ได้แก่ โครงการ โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคน และโลกได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถสร้าง value ให้กับพื้นที่ของโครงการ

จากข้อสรุปผลจากการดำเนินการทุกประการที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ดิฉันมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทฯ จะสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2566 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทฯ จะได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านเสมือนในปี ที่ผ่านมา

ในนามของคณะกรรมการบริษัทฯ คณะผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ขอแสดงความขอบคุณต่อความเชื่อมั่น การสนับสนุน ในด้านต่าง ๆ และความปรารถนาดีของท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านมา ณ ที่นี้

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง