SET Announcements
แบบรายงานการเพิ่มทุน
10 August 1999
แบบรายงานการเพิ่มทุน
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 10 สิงหาคม 2542
ข้าพเจ้า บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขอรายงานมติคณะกรรมการครั้งที่ 3/2542 เมื่อวันที่ 9
สิงหาคม 2542 ระหว่างเวลา 14.30 น. ถึง 17.00 น. เกี่ยวกับการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังต่อไปนี้
1 การเพิ่มทุน
ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 550,000,000 บาท เป็น6,937,500,000 บาท
โดยออกหุ้นสามัญ จำนวน 638,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม 6,387,500,000 บาท
2 การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน
ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญ จำนวน 638,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
รวม 6,387,500,000 บาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
2.1 รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้แก่ จำนวนหุ้น อัตราส่วน ราคาขาย วัน เวลา จองซื้อ หมายเหตุ
(เดิม:ใหม่) ต่อหุ้น(บาท)/ และชำระเงินค่าหุ้น
ราคาแปลงสภาพ
ผู้ถือหุ้นเดิม 200,000,000 ตามที่คณะกรรมการ ไม่ต่ำกว่า 10 บาท ตามที่คณะกรรมการ -
จะได้กำหนด จะได้กำหนด
ประชาชน 200,000,000 - ไม่ต่ำกว่า 10 บาท ตามที่คณะกรรมการ -
จะได้กำหนด
นักลงทุนโดยเฉพาะ
เจาะจง จำนวนไม่เกิน
35 ราย หรือู้ลงทุน 17
ประเภทตามประกาศคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ 18,000,000 - 6 บาท ตามที่คณะกรรมการ 1
จะได้กำหนด
นักลงทุนโดยเฉพาะ
เจาะจง จำนวนไม่เกิน
35 ราย หรือผู้ลงทุน 17
ประเภทตามประกาศคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ โดย
เป็นการรองรับการใช้สิทธิ
ซื้อหุ้นสามัญ (Option) 18,000,000 - 6 บาท ตามที่คณะกรรมการ 1
จะได้กำหนด
นักลงทุนโดยเฉพาะ
เจาะจง จำนวนไม่เกิน
35 ราย หรือผู้ลงทุน 17
ประเภทตามประกาศคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ 183,500,000 - ไม่ต่ำกว่า 10 บาท ตามที่คณะกรรมการ -
จะได้กำหนด
เพื่อรองรับการแปลง
สภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ 16,500,000 - หุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า
1,000 บาท แปลง
เป็นหุ้นสามัญได้30หุ้น 2
เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกให้
แก่กรรมการ และพนักงาน
ของบริษัทและบริษัทย่อย 2,750,000 - 6 บาท - 1 และ 3
หมายเหตุ 1
ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคา 6 บาท (หกบาท) เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย
ในขณะที่ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวในราคาหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท)
หมายเหตุ 2
รายละเอียดในเบื้องต้นของหุ้นกู้แปลงสภาพ
ชนิด :หุ้นกู้แปลงสภาพชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่มีหลักประกัน
ที่ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัท
จำนวนเงิน :ไม่เกิน 550,000,000 บาท (ห้าร้อยห้าสิบล้านบาท)
จำนวนหน่วย :ไม่เกิน 550,000 หน่วย (ห้าแสนห้าหมื่นหน่วย)
อายุ :ไม่เกิน 1 ปี (หนึ่งปี) นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
วิธีการจัดสรร :จัดสรรให้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้และเจ้าหนี้ภาระผูกพันของบริษัท ซึ่ง
เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private
Placement)จำนวนไม่เกิน 35 ราย และ/หรือผู้ลงทุน 17
ประเภท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ลลาดหลักทรัพย์ เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใน
การขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ และหุ้นที่
ออกใหม่เพื่อรองรับหุ้นกู้แปลงสภาพ และการอนุญาตลงวันที่
30 ตุลาคม 2535
มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย :1,000 บาท (หนึ่งพันบาท)
อัตราดอกเบี้ย :ร้อยละ -0- (ศูนย์) ต่อปี
ราคาการแปลงสภาพ :1,000 บาท (หนึ่งพันบาท) ต่อหุ้นสามัญ 30 หุ้น (สามสิบหุ้น)
ระยะเวลาการใช้สิทธิ :ตลอดอายุของหุ้นกู้แปลงสภาพ
วันสิ้นสุดของการใช้สิทธิ :ไม่เกิน 1 ปี (หนึ่งปี) นับแต่วันที่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ
จำนวนหุ้นที่สำรองไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพ :ไม่เกิน 16,500,000 หุ้น (สิบหกล้านห้าแสนหุ้น)
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น :ในกรณีที่มีการใช้สิทธิตามหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดจะทำให้
สิทธิในการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงประมาณ
ร้อยละ 23 และหากรวมกับกรณีที่มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญ
แสดงสิทธิทั้งหมดที่บริษัทจะออกให้แก่กรรมการและ
พนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย อีกจำนวน 2,750,000 หุ้น
(สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหุ้น) และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่บริษัท
จะออกให้แก่บุคคลในวงจำกัดอีกจำนวน 36,000,000 หุ้น
(สามสิบหกล้านหุ้น) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะออกให้ภายในระยะ
เวลาอันใกล้ จะทำให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้น
เดิมลดลง ประมาณร้อยละ 50
ในส่วนของผลกระทบในแง่ของเงินปันผลและกำไรต่อหุ้นนั้น
คาดว่าจะมีผลกระทบเฉพาะช่วงต้นเท่านั้น ซึ่งหากบริษัท
สามารถบริหารงานให้เป็นไปตามเป้าหมายก็น่าจะทำให้กำไร
ต่อหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นมาชดเชยกับผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นได้
ในระยะยาว
สิทธิของผู้ถือหุ้นในการคัด :เนื่องจากหุ้นสามัญที่ออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหุ้นกู้
ค้านการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ แปลงสภาพในครั้งนี้ เมื่อรวมกับจำนวนหุ้นที่จัดไว้เพื่อรอง
รับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพที่
ออกในครั้งอื่นมีจำนวนเกินกว่าร้อยละ 30 แต่ไม่เกินร้อย
ละ 100 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท
ดังนั้น ผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25 ราย ซึ่งถือหุ้นรวมกันตั้งแต่ร้อยละ
10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทมี
สิทธิคัดค้านการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพโดยมีหุ้นสามัญ
รองรับในจำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบริษัทหรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย มีอำนาจกำหนดรายละเอียดและเงื่อน
ไขอื่นๆ ของหุ้นกู้แปลงสภาพ เช่น จำนวนหุ้นกู้แปลงสภาพที่จะออกให้นักลงทุนแต่ละราย อายุ ระยะเวลาการใช้สิทธิ วัน
สิ้นสุดของการใช้สิทธิ หรือเหตุให้ต้องออกหุ้นสามัญใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในการใช้สิทธิแปลงสภาพ เป็นต้น เข้า
เจรจา ตกลง ลงนามในเอกสารและสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งดำเนินการต่างๆ อันจำเป็นและสมควรอันเกี่ยวเนื่อง
กับหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งรวมถึงการนำหุ้นสามัญที่ได้เนื่องจากการแปลงสภาพเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หมายเหตุ 3
รายละเอียดในเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัท
ย่อย
1 รายละเอียดเกี่ยวกับใบสำคัญแสดงสิทธิ
1.1 ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
ชนิดระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือไม่ได้ เว้นแต่เป็นไป ตามเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในข้อ 5 ท้ายนี้
1.2 จำนวนที่ออก 2,750,000 หน่วย (สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหน่วย)
1.3 มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย -0-บาท (ศูนย์บาท)
1.4 ราคาเสนอขายต่อหน่วย -0-บาท (ศูนย์บาท)
1.5 วิธีการจัดสรร จัดสรรในวงจำกัดให้แก่กรรมการและพนักงานของ
บริษัทและบริษัทย่อยรวมทั้ง บริษัท เวิร์ลไทม์ โฮล
ดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ในฐานะเป็นผู้
รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ ตามรายละเอียดในข้อ 2 ข้างท้ายนี้
1.6 อายุโครงการ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
1.7 อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกตามที่ระบุในใบสำคัญแสดงสิทธิ
1.8 อัตราการใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น
1.9 ราคาการใช้สิทธิต่อหน่วย -6- บาท (หกบาท) แต่ในกรณีที่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย
ที่ทำให้ไม่สามารถใช้ราคาการใช้สิทธิดังกล่าวได้ ก็ให
ราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 10 บาท (สิบบาท)
1.10 จำนวนหุ้นที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิ 2,750,000 หุ้น (สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหุ้น)
1.11 ตลาดรอง บริษัทจะไม่นำใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
สามัญนี้ไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2 วิธีการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทจะดำเนินการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 2,750,000 หน่วย (สองล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นหน่วย) ให้แก่
กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยโดยตรงและ/หรือให้แก่บริษัท เวิร์ลไทม์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
ของบริษัท ในฐานะเป็นผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์เพื่อโอนต่อให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อยตามที่
คณะกรรมการบริษัทจะกำหนด ทั้งนี้การจัดสรรให้แก่กรรมการและ/หรือพนักงานดังกล่าวจะมีจำนวนไม่เกิน 35 ราย ใน
รอบระยะเวลา 12 เดือนใด ๆ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
2.1 คณะกรรมการบริษัทจะทำการพิจารณากำหนดรายนามกรรมการ และพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย
ผู้มีสิทธิได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ และจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยผู้มีสิทธิแต่
ละรายดังกล่าวจะได้รับ
2.2 คณะกรรมการบริษัท จะเสนอรายชื่อและจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการของบริษัทและ/หรือ บริษัทย่อย
แต่ละรายจะได้รับจัดสรร รวมทั้งรายชื่อและจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่พนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย รายที่
จะได้รับจัดสรรเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่ออกตามโครงการนี้ต่อที่ประชุมผู้ถือ
หุ้นของบริษัทเพื่ออนุมัติเป็นคราวๆ ไปก่อนการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ
3 คุณสมบัติของกรรมการและพนักงานที่จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ
3.1 ต้องเป็นกรรมการและพนักงานของบริษัท หรือบริษัทย่อย ในวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติจัดสรรตามที่เห็น
สมควร
3.2 ต้องเป็นกรรมการและพนักงานผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่บริษัท หรือบริษัทย่อย (แล้วแต่กรณี)
3.3 จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่กรรมการและ/หรือพนักงานของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยแต่ละรายได้รับไม่
จำเป็นต้องมีจำนวนเท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ อายุงาน ประโยชน์ที่ทำให้แก่บริษัท หรือบริษัทย่อย(แล้วแต่กรณี)
และความรับผิดชอบตามที่คณะกรรมการบริษัทกำหนด
4 หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการใช้สิทธิ
4.1 ระยะเวลาการใช้สิทธิ
ผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญที่ออกตามโครงการนี้สามารถใช้สิทธิได้ ในวันกำหนดการใช้สิทธิใดๆ
(ตามที่ได้นิยามไว้ในข้อ 4.3 ข้างท้ายนี้) ในระหว่างอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ ("ระยะเวลาการใช้สิทธิ")
4.2 การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ
ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทแต่ละครั้งผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ได้ทั้งหมด
หรือแต่บางส่วนทั้งนี้การใช้สิทธิแต่ละครั้งจะต้องเป็นจำนวนเต็มของหน่วยการซื้อขายหุ้นบนกระดานหลักในตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยกเว้นการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญครั้งสุดท้าย
4.3 วันกำหนดใช้สิทธิ
ผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ในระหว่างเวลา 9.00 น. ถึงเวลา 16.00 น.ของวัน
ทำการใดๆ ของบริษัทในแต่ละเดือนตามที่คณะกรรมการบริษัทจะกำหนดตลอดระยะเวลาการใช้สิทธิ ("วันกำหนดการใช้
สิทธิ") ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิทราบพร้อมกับการจัดส่งใบสำคัญแสดง
สิทธิให้บุคคลดังกล่าว
5.ข้อผูกพันระหว่างบริษัทกับกรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยในการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ
5.1 ในกรณีที่กรรมการของบริษัทหรือบริษัทย่อยได้ลาออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมการก่อนครบกำหนดการ
ดำรงตำแหน่งตามวาระหรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อยได้ลาออกจากการเป็นพนักงาน โดยมิใช่เนื่องจากการ
กระทำความผิดของบุคคลดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5.2 ท้ายนี้ อันทำให้กรรมการหรือพนักงานรายนั้นพ้นสภาพ
จากการเป็นกรรมการหรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อยก่อนการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้กรรมการและ/
หรือพนักงานดังกล่าวสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้อีก 1 ครั้ง ภายในวันกำหนดการใช้สิทธิคราวถัดไปหลัง
จากที่กรรมการและ/หรือพนักงานดังกล่าวได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและ/หรือพนักงาน หากมีใบสำคัญแสดงสิทธิ
เหลือจากการใช้สิทธิในคราวดังกล่าว ให้โอนใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนดังกล่าวคืนมายังคณะกรรมการบริษัทหรือให้แก่
ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ ตามที่คณะกรรมการจะกำหนดเพื่อดำเนินการจัดสรรหรือโอนให้แก่กรรมการและ/หรือพนักงาน
ของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรต่อไป ทั้งนี้ กรรมการและ/หรือพนักงานผู้โอนใบ
สำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ ในการนี้ทั้งสิ้น
5.2 ในกรณีที่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อยได้ออกจากการเป็นกรรมการหรือพนักงานของ
บริษัทหรือบริษัทย่อยเนื่องจากการกระทำความผิดของบุคคลดังกล่าวก่อนการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้โอนใบ
สำคัญแสดงสิทธิจำนวนดังกล่าวคืนมายังคณะกรรมการบริษัท หรือให้แก่ผู้รับช่วงซื้อหลักทรัพย์ตามที่คณะกรรมการจะ
กำหนด เพื่อดำเนินการจัดสรรหรือโอนให้แก่กรรมการและ/หรือพนักงานของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยตามที่คณะ
กรรมการบริษัทเห็นสมควรต่อไป ทั้งนี้กรรมการและ/หรือพนักงานผู้โอนใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะไม่เรียกร้องค่า
ตอบแทนใดๆ ในการนี้ทั้งสิ้น
5.3 ในกรณีที่กรรมการของบริษัทหรือบริษัทย่อยได้ออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมการตามวาระการดำรง
ตำแหน่งหรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อยได้เกษียณอายุอันทำให้กรรมการหรือพนักงานรายนั้นพ้นสภาพจากการ
เป็นกรรมการหรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อยก่อนการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้ใบสำคัญแสดงสิทธิดัง
กล่าวตกแก่กรรมการผู้ออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมการตามวาระการดำรงตำแหน่งหรือพนักงานผู้เกษียณอายุ
ดังกล่าว
5.4 ในกรณีที่กรรมการหรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อยได้เสียชีวิตหรือสาบสูญหรือทุพพลภาพหรือเป็น
บุคคลไร้ความสามารถ อันทำให้กรรมการหรือพนักงานรายนั้นพ้นสภาพจากการเป็นกรรมการหรือพนักงานของบริษัท
หรือบริษัทย่อยก่อนการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวตกทอดแก่บุคคลที่กรรมการหรือ
พนักงานผู้เสียชีวิตหรือสาบสูญหรือทุพพลภาพหรือเป็นบุคคลไร้ความสามารถระบุชื่อให้เป็นผู้รับผลประโยชน์ตามหนังสือ
แต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ของกรรมการหรือพนักงานผู้เสียชีวิตหรือสาบสูญหรือทุพพลภาพหรือเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
ดังกล่าว
5.5 ในกรณีที่มีการจัดสรรหรือโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจากกรรมการหรือพนักงานตามที่ระบุไว้ในข้อ 5.1และ
5.2 ข้างต้น ให้แก่กรรมการหรือจัดสรรหรือโอนให้แก่พนักงานรายใดรายหนึ่งอันทำให้พนักงานรายนั้นมีกรรมสิทธิ์ใน
ใบสำคัญแสดงสิทธิเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่ออกในครั้งนี้ บริษัทจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้น
เพื่อลงมติอนุมัติจัดสรรต่อไป
6.ความช่วยเหลือจากบริษัทในการจัดหาแหล่งเงินทุนแก่กรรมการและพนักงาน
- ไม่มี -
7.ผลกระทบที่มีต่อผู้ถือหุ้นจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิและเสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของ
บริษัทและบริษัทย่อยในครั้งนี้
7.1 ผลกระทบของผู้ถือหุ้นเดิมสำหรับการลดลงของสัดส่วนความเป็นเจ้าของ
กรณีที่มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิของกรรมการและพนักงานทั้งหมดโดยคำนวณจากทุนที่
เรียกชำระแล้วในปัจจุบัน
จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดในปัจจุบัน = 55,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นทั้งหมดที่เกิดจากการใช้สิทธิ = 2,750,000 หุ้น
รวมจำนวนหุ้นหลังการใช้สิทธิ = 57,750,000 หุ้น
สัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิมหลังการใช้สิทธิ = 95.24 %
กรณีที่มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิของกรรมการและพนักงานทั้งหมดตามวาระนี้รวมกับการใช้
สิทธิของผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพทั้งหมดตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุ 2 ข้างต้น และการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่บริษัท
ออกให้แก่บุคคลในวงจำกัดอีกจำนวน 36,000,000 หุ้น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะออกภายในระยะเวลาอันใกล้
จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดในปัจจุบัน = 55,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นทั้งหมดที่เกิดจากการใช้สิทธิ/การขายหุ้นสามัญ = 55,250,000 หุ้น
รวมจำนวนหุ้นหลังการใช้สิทธิ/การขายหุ้นสามัญ = 110,250,000 หุ้น
สัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิมหลังการใช้สิทธิ/การขายหุ้นสามัญ = 49.89%
7.2 จำนวนที่เสนอขายกรรมการและพนักงานจะไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในปัจจุบัน = 55,000,000 หุ้น
จำนวนหุ้นที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เสนอขายในครั้งนี้ = 2,750,000 หุ้น
จำนวนหุ้นที่จัดสรรในครั้งนี้เทียบกับจำนวนหุ้นที่
จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด = 5%
7.3 ผลประโยชน์ที่จัดสรรให้กรรมการหรือพนักงานมีมูลค่าไม่เกินร้อยละ 4 ของมูลค่าตลาดรวมก่อนการ
เสนอขายหลักทรัพย์
(Po - Pe) x Qe คิดเป็นร้อยละ 2.7778 ของ (Po x Qo)
โดย Po = ราคาตลาดของหุ้นบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2542 (13.50 บาท)
Pe = ราคาที่เสนอขายหุ้นที่ใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิจองซื้อ
ได้ (6 บาท)
Qe = จำนวนหุ้นที่รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่เสนอขายครั้งนี้
(2,750,000 หุ้น)
Qo = จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์
จำกัด (มหาชน) ก่อนการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกครั้งนี้
(55,000,000 หุ้น)
7.4 สิทธิของหุ้นสามัญที่ออกตามการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
หุ้นสามัญที่ออกตามการใช้สิทธิของผู้ทรงใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้ จะมีสิทธิและสภาพเท่าเทียมกับ
หุ้นสามัญของบริษัทที่ออกไปก่อนหน้านี้แล้วทุกประการ
ทั้งนี้ให้คณะกรรมการบริษัทหรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมายมีอำนาจในการพิจารณากำหนดราย
ละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธินี้ ตลอดจนดำเนินการขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง
มีอำนาจในการดำเนินการใด ๆ ตามที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้
2.2 การดำเนินการของบริษัท กรณีที่มีเศษของหุ้น บริษัทจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาจัดสรรต่อ
ไป
2.3 จำนวนหุ้นคงเหลือที่ยังมิได้จัดสรร จำนวน - หุ้น
3 กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน
กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2542 ในวันที่ 14 กันยายน 2542 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม
ของบริษัท เลขที่ 806/1-3 ถนนสุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นของบริษัทเพื่อสิทธิใน
การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2542 เวลา 12.00 น.จนกว่าการประชุมผู้ถือดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
4 การขออนุญาตเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และเงื่อนไขการขออนุญาต (ถ้ามี)
- ไม่มี -
5.วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม
5.1 เพื่อชำระคืนหนี้จำนวนประมาณ 785,000,000 บาท
5.2 เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนจำนวนประมาณ 100,000,000 บาท
5.3 เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต จำนวนประมาณ 5,732,500,000 บาท
6 ประโยชน์ที่บริษัทจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน
บริษัทสามารถลดจำนวนหนี้และเสริมสภาพคล่องทางการเงินรองรับการดำเนินกิจการของบริษัทในอนาคต
7. ประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน
7.1 นโยบายเงินปันผล บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิใน
แต่ละปี
7.2 ผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีสิทธิรับเงินปันผลจากการดำเนินงานเริ่มตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เข้า
ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
7.3 อื่น ๆ - ไม่มี -
8. รายละเอียดอื่นใดที่จำเป็นสำหรับผู้ถือหุ้นเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการอนุมัติการเพิ่มทุน/
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน - ไม่มี -
9. ตารางระยะเวลาการดำเนินการในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน
วันที่ เหตุการณ์
25 สิงหาคม 2542 ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่
1/2542
14 กันยายน 2542 ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2542 เพื่ออนุมัติวาระต่างๆรวมถึงวาระการเพิ่มทุน
และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ
ลายมือชื่อ กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท
(นายสิทธิ ลีละเกษมฤกษ์)